หากเรามองไปตามท้องถนน สิ่งที่จะพบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ คนนิยมพกพากระติกน้ำกันมากขึ้น โดยกระติกน้ำที่พกก็ไม่ได้เป็นกระติกน้ำธรรมดาๆ แต่ว่าเป็นกระติกน้ำสุญญากาศที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากเท่าไหร่ โดยเราสามารถพกพาไปได้แบบง่ายดาย สะดวกสบาย ทั้งเวลาที่เราเรียนและเวลาที่เราทำงาน เป็นการบังคับเราในตัวให้ดื่มน้ำมากกว่าเดิม โดยสิ่งที่จัดได้ว่าเป็นจุดเด่นของกระติกน้ำแบบนี้ก็คือการที่เวลาใส่น้ำเย็นไป น้ำก็ยังคงเย็นอยู่เช่นนั้น ในขณะที่หากใส่น้ำร้อนไป น้ำก็ยังร้อนอยู่อีกเช่นกัน วันนี้หลายๆ คนคงอยากจะรู้ว่ากระติกนี้ทำงานอย่างไร มาดูพร้อมๆ กันเลย
1.ที่มาและแหล่งกำเนิด
สำหรับกระติกน้ำสุญญากาศจัดได้ว่าเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ใครจะรู้บ้างว่าที่มาและแหล่งกำเนิดของกระติกชนิดนี้มีมาตั้งแต่ในปี 1892 แต่คนที่คิดเป็นนักฟิสิกส์โบราณที่ไม่ได้จดลิขสิทธิ์เอาไว้นั่นเอง ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าต่อมา มีคนเอาไปทำการคิดค้นและต่อยอดจนกระทั่งถูกนำมาใช้ให้เหมาะสมกับชีวิตของคนทั่วๆ ไป และสามารถเอามาขายได้แบบง่ายดายเลยทีเดียว
2.หลักการทำงาน
หากจะอธิบายหลักการทำงาน ก็อาจจะยากอยู่สักหน่อย แต่รับประกันได้เลยว่า เราจะถ่ายทอดให้ได้ง่ายมากที่สุด โดยการถ่ายโอนความร้อนจะมาจากการส่งความร้อนจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง และเป็นการพาเอาความร้อนและเอารังสีความร้อนไปใกล้ๆ กับแหล่งพลังงานนั่นเอง ด้วยหลักการพาความร้อนจนกลายเป็นถ่ายโอนความร้อนนี้เอง ที่ได้ทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัด
3.กระติกน้ำร้อนเย็นแบบสุญญากาศและจุดเด่น
สำหรับกระติกน้ำที่เราทำความรู้จักกันในวันนี้จะมีภาชนะใส่ของเหลว ทั้งหมดสองแห่ง โดยเราจะทำด้วยโลหะหนึ่งแห่ง และมีอีกหนึ่งที่ถูกครอบเอาไว้ ซึ่งเราสามารถเชื่อมติดกันได้แบบง่ายดายด้วยการออกแบบ มีช่องว่างระหว่างสองภาชนะนี้ โดยทำให้ไม่มีอากาศเกิดขึ้น เมื่อไม่มีอากาศก็ไม่มีการนำความร้อน การพาความร้อน การแผ่รังสีความร้อน ทำให้อุณหภูมิยังคงที่อยู่เสมอ
อาจจะกล่าวได้ว่าการเลือกกระติกน้ำสุญญากาศสักชิ้นหนึ่งสำหรับใช้ใส่น้ำพกพาไปกิน เป็นเรื่องที่ไม่ยากสักเท่าใดนัก นั่นเป็นเพราะว่าการใส่น้ำเพื่อพกพาไปกินเป็นสิ่งที่ง่ายดาย เหมาะสมและตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อาจจะกล่าวได้ว่าการพกพากระติกน้ำคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดที่เราควรทำ และสิ่งที่เราจะต้องให้ความใส่ใจและระมัดระวังเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตนั่นเอง
